การออกกำลังกาย ไม่ว่าจะวิธีไหน ๆ ต่างก็ย่อมมีข้อดี และข้อเสีย ต่อร่างกาย หากไม่ได้ถูกปฏิบัติอย่างถูกวิธี เช่นกัน กับ การเดินออกกำลังกาย อย่างที่หลาย ๆ คนทราบกันดีว่า การเดินออกกำลังหายนั้นส่งผลดีต่อร่างกาย แต่หากจะให้ได้รับประโยชน์สูงสุด ก็จะต้องมีเทคนิคดี ๆ ที่ช่วยเสริมให้ร่างกายได้รับประโยชน์ที่เต็มประสิทธิภาพ มากกว่าจะเดินแบบธรรมดา และวันนี้ เราก็ได้นำ 5 เทคนิค การเดินออกกำลังกาย ให้ได้ประโยชน์สูงสุด มาฝากให้กับทุก ๆ ได้ทราบ และสามารถนำไปปฏิบัติในการออกกำลังกายได้ ค่ะ
การเดินออกกำลังกายแบบธรรมดา ๆ ก็อาจจะได้รับประโยชน์อยู่ไม่มากนัก หากยังขาดความรู้ในการปฏิบัติ เพราะว่า การเดินออกกำลังกาย อาจจะต้องใช้เวลาที่นานมากกว่าการออกกำลังกายแบบอื่น ๆ หากคุณได้ลองใช้เทคนิคที่เราได้นำมาบอกให้ทุกคนได้รู้ในวันนี้ รับรองเลยว่า การเดินธรรมดา ๆ จะได้ผลลัพธ์ที่ดีเท่ากับการออกกำลังกายหนัก ๆ แบบอื่น ๆ ซึ่งบางที ก็อาจจะได้สิ่งที่ดีกว่าอีกด้วย ดังนั้น เรามาดู 5 เทคนิคกันเลยว่า จะมีอะไรบ้าง
5 เทคนิค การเดินออกกำลังกาย ให้ได้ประโยชน์สูงสุด

1. ก้าวเท้าในระยะที่เหมาะสม
สำหรับการเดินออกกำลังกาย อาจจะจะไม่ต้องใช้พลังงานในร่างกายที่มากนัก อาจจะทำให้เผลอก้าวเท้ายาวมากกว่าปกติ ซึ่งการก้าวเท้าที่ยาวจนเกินไปจะทำให้ เกิดความเมื่อยล้าที่กล้ามเนื้อต้นขา และสะโพกมากกว่าปกติ การก้าวเท้าในลักษณะนี้นอกจากจะไม่ได้รับประโยชน์แล้ว ยังทำให้ร่างกายได้รับความเมื่อยล้าไวยิ่งขึ้น ทำให้ต้องหยุดเดินออกกำลังกายไวขึ้น บางครั้ง อาจจะต้องหยุดพักก่อนที่จะครบ เวลาอย่างน้อย 30 นาที ดังนั้น หากต้องการเดินออกกำลังให้มีประสิทธิภาพสุงสุด ก็ไม่ควรที่จะก้าวเท้ายาวจนเกินไปนะคะ

2. แกว่งแขนทุกครั้ง
การแกว่งแขนในขณะที่เดินออกกำลังกาย ก็จะช่วยได้รับประโยชน์จากการออกกำลังกายที่มากขึ้น ซึ่งการแกว่งแขวนที่เหมาะสม ก็คือ แกว่งแขนซ้าย และแขนขวาสลับหน้าหลังขนานกับลำตัว มือทั้งสองข้างไม่ควรกำแน่น หรือ แบมือออ ให้กำแบบหลวม ๆ มือที่แกว่งสูงระดับอกในลักษณะที่ผ่อนคลาย งอศอกเล็กน้อย ทำมุมประมาณ 90 องศา ระหว่างแขนท่อนบน-ล่าง ซึ่งการแกว่งแขนนี้จะทำให้กล้ามเนื้อในบริเวณไหล่ คอ และหลัง ขยับไปตามการแกว่งแขน ดังนั้น เมื่อต้องเดินออกกำลังกายก็อย่าลืมแกว่งแขนซ้ายและขวาตามที่แนะนำนะคะ

3. เดินขึ้นบันได
หากใครที่เดินออกกำลังกายเป็นประจำอยู่ทุกวัน จนเคยชิน และร่างกายอาจจะมีความแข็งแรงที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น อาจจะเปลี่ยนแนวจากการเดินแบบราบมาเป็นการเดินขึ้น และ เดินลง บันได หรือ การเดินขึ้นทางที่ชัน และ ลงทางชัน เดินไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะรู้สึกเหนื่อย จึงค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนมาเป็นการเดินทางราบเพื่อผล่อยคลายกล้ามเนื้อ ซึ่งการเดินขึ้นลงทางที่ชัน จะเป็นการกระตุ้นให้กล้ามเนื้อทำงานมากขึ้น รวมไปถึงกล้ามเนื้อหัวใจอีกด้วย ดังนั้น หากต้องการที่จะรับประโยชน์สูงสุดก็อย่าลืมลองเดินขึ้นลงทางชัน ๆ ด้วยนะคะ

4. เดินเอนตัว หากต้องเดินขึ้นทางชัน
จากเทคนิคข้อที่แล้วให้เดินขึ้นทางชัน ๆ หรือ เดินขึ้นบันได เพื่อลดอาการบาดเจ็บและ ฝืนกล้ามเนื้อจนเกินไป ก็จะต้องเอนตัวไปข้างหน้าหากเป็นการเดินขึ้น และก้าวช้า ๆ สั้น ๆ และวางเท้าเบา ๆ หากต้องเดินลงทางชันค่ะ

5. ก้าวอย่างสม่ำเสมอ
การเดินออกกำลังทางเรียบ ก็ควรที่จะเดินไปแบบส่ำเสมอ มีความต่อเนื่อง เลี่ยงการเดินแบบเดิน ๆ หยุด เพราะว่าการเดินไม่ได้ทำให้ร่างกายเหนื่อยจนต้องหยุดพัก ซึ่งอย่างน้อยก็ควรจะต้องเดิน 30 – 40 นาที ค่อยหยุด แต่หากเป็นวันแรกที่เริ่มเดินออกกำลังกาย ก็อาจจะเริ่มต้น 10- 15 นาที ก็ได้ค่ะ
ก็จบไปแล้วนะคะ กับ 5 เทคนิค การเดินออกกำลังกาย ให้ได้ประโยชน์สูงสุด เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการออกกำลังกายด้วย ก็ไม่ควรที่จะมองข้ามเทคนิคดี ๆ เหล่านี้ ที่จะช่วยเพิ่มความธรรมดาจากการเดิน ให้เทียบเท่าการออกกำลังแบบหนักเลยค่ะ และอย่างที่บอกไปว่า การออกกำลังนั้น ก็มีข้อดีทั้งข้อเสีย หากปฏิบัติไม่ถูกวิธี เพราะในการออกกำลังก็จะต้องคำนึงในสิ่งต่าง ๆ อีกด้วย
ขอแนะนำบทความ รู้เท่าทันอันตรายจากการไม่ล้างเครื่องใช้ไฟฟ้า แอร์ – ตู้เย็น ที่จะทำให้รู้เท่าทันอันตรายจาก เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่หากเราปล่อยปละ ละเลยไป สามารถส่งผลเสียต่อสุขอนามัยของคนในบ้านได้เลยนะคะ
และเรายังมี 4 สูตรลัดในการเล่น superslot แบบไม่ต้องพึ่งดวง ที่สามารถนำไปปรับใช้ในการเล่น ให้ได้เงินรางวัลเต็ม ๆ อย่างง่ายดาย เลยล่ะค่ะ